วันอังคาร, 19 มีนาคม 2567

มาตรการรับมือกับสถานการณ์ในช่วงการป้องกันการติดต่อเชื้อไวรัส Covid-19 โรงเรียนกบินทร์บุรี

ด้วยสถานการณ์ปัจจุบัน ที่โลกเจอสภาวะวิกฤติในรูปแบบต่าง ๆ อันเลวร้าย ไม่ว่าจะเป็นภัยแล้ง น้ำท่วม ปัญหาโลกร้อน ไฟป่า หรือแม้กระทั่ง โรคระบาดที่พวกเรากำลังเผชิญอยู่ในตอนนี้ ทำให้หลายๆฝ่ายต้องเตรียมความพร้อมตั้งรับ รับมือ และวางแผน เพื่อที่จะปรับตัวให้สามารถดำเนินขีวิตอยู่ได้ในสถานการณ์ต่าง ๆ

ประเทศไทยเป็น 1 ในหลายๆประเทศที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา หรือ โควิด-19 สายพันธุ์ใหม่นี้ ซึ่งทำให้หลายหน่วยงานในประเทศต้องมีมาตรการการควบคุม เพื่อไม่ให้การแพร่ระบาดของโรค แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว
และสร้างผลเสียที่ตามมาในวงกว้าง 

ในหน่วยงานการศึกษาทุกภาคส่วน มีการปรับเปลี่ยนและวางแผนตั้งรับ เพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ในตอนนี้ ไม่ว่าสถานการณ์แวดล้อมจะเลวร้ายแค่ไหนเรายึดหลักสำคัญที่ว่า 
“โรงเรียนหยุดได้ แต่การเรียนรู้หยุดไม่ได้ “

โรงเรียนกบินทร์บุรี นำโดยท่านผู้อำนวยการ ดร.รัชภร รุ่งตั้งธนาบุญ มีมาตรการการจัดการเรียนการสอนของโรงเรียนกบินทร์บุรี ในช่วงการป้องกันการติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา หรือโควิด-19 (Covid-19) 

โดยจัดให้มีการเรียนการสอนออนไลน์ ออฟไลน์ และการเรียนการสอนแบบอื่น ๆ ทุกรูปแบบที่สามารถทำให้นักเรียนได้เข้าถึงการเรียนรู้ได้มากที่สุด

ไม่ว่าจะเป็น DLTV ซึ่งเป็นการจัดการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม ที่ทางมูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับ กระทรวงศึกษาธิการ และ กสทช จัดให้มีการเรียนการสอนทาง ทีวี และทางออนไลน์ ในวิชาพื้นฐานที่สำคัญ เพื่อให้นักเรียนที่มีความพร้อมในการเข้าถึงการศึกษาลักษณะนี้ สามารถเข้าถึงการเรียนการสอนได้

สำหรับโรงเรียนกบินทร์บุรีนั้นได้สร้างช่องทางการศึกษาออนไลน์ในเว็บไซต์ ของโรงเรียนกบินทร์บุรี ภายใต้ระบบที่มีชื่อว่า KB COURSE หรือระบบการจัดการเรียนการสอนออนไลน์โรงเรียนกบินทร์บุรี โดยกลุ่มงานเทคโนโลยีได้พัฒนาโปรแกรมการเรียนออนไลน์ขึ้นมาใหม่ เพื่อให้เข้ากับบริบทของโรงเรียน สามารถรองรับการจัดการศึกษาในวิชาอื่นๆ เช่น วิชาที่ไม่ได้มีการจัดการเรียนการสอนใน DLTV รวมถึงวิชาเพิ่มเติมอื่น ๆ อีกทั้งยังสามารถนำเอาการเรียนการสอนจาก DLTV เข้ามาบูรณาการผสานเข้าในระบบ KB Course ได้อย่างสมบูรณ์ มีระบบการติดตามส่งงาน การสร้างใบงาน ระบบการจัดทำแบบทดสอบที่หลากหลาย ระบบการให้คะแนน และระบบการออกวุฒิบัตรเมื่อสำเร็จการเรียนในแต่ละรายวิชา โดยนักเรียนสามารถใช้อุปกรณ์สื่อสารพกพา ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์มือถือ แท๊บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์ เข้าเรียนใน KB COURSE ได้อย่างยืดหยุ่น ทุกที่ ทุกเวลา รวมถึงการเข้าถึงนักเรียนทางสื่อโซเซียล ในการติดต่อ ติดตาม และควบคุมนักเรียนให้สามารถเรียนรู้ ในสถานการณ์ขณะนี้ได้ 

อีกทั้งการวางแผนในอนาคตในการสร้างรูปแบบการเรียนการสอนให้มีความเป็นอิสระในการเรียนรู้ รองรับการจัดการเรียนการสอนควบคู่ไปกับการเรียนในห้องเรียนแบบปกติได้ ซึ่งระบบ KB COURSE สามารถตอบโจทย์ในบริบทของโรงเรียนกบินทร์บุรีได้เป็นอย่างดี

สำหรับการเรียนออนไล์ของโรงเรียนกบินทร์บุรีนั้น ได้มีการวางแผนการติดตามดูแลนักเรียนอย่างเป็นระบบ โดยมีการประชุมเตรียมความพร้อมสำหรับคณะครูในแต่ละวันในช่วงเช้า และการรายงานผลในช่วงเย็น ผ่านทาง วีดีโอ คอนเฟอร์เรนจน์ ซูม ในทุกวันทำการ เพื่อติดตามนักเรียนในการเรียนออนไลน์ ในแต่ละวัน โดยคณะครูได้ทราบถึงปัญหาของนักเรียนได้อย่างชัดเจน และช่วยกันหาวิธีการแก้ปัญหาของการเรียนออนไลน์ของนักเรียนได้อย่างทันท่วงที เพื่อให้นักเรียนได้สามารถเข้าถึงการจัดการเรียนการสอนได้มากที่สุด และมีเวลาเรียนสะสมเก็บไว้อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีการเชิญผู้บริหารระดับสูง เช่น นายวัลลภ ประวัติวงค์ นายอำเภอกบินทร์บุรี ดร.บุญยกุล หัตถกี รอง ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 7 และ ดร.กฤษ ละมูลมอญ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 7 เข้าร่วมการประชุมกับคณะครู เพื่อรับฟังความคิดเห็น และทราบถึงปัญหา รวมถึงการให้คำแนะนำ และแนวทางในการแก้ปัญหา การเตรียมตัว และให้กำลังใจ กับคณะคณะครูของโรงเรียนกบินทร์บุรี เรียกได้ว่าเป็นการสร้างชุมชน การเรียนรู้ทางวิชาชีพ หรือ PLC อีกทางหนึ่ง เพื่อที่จะจัดการเรียนการสอนให้กับนักเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป 

สำหรับนักเรียนที่ไม่สามารถเข้าถึงการเรียนการสอนออนไลน์ได้นั้น โรงเรียนกบินทร์บุรีได้มีมาตรการ ออกติดตาม เยี่ยมบ้านนักเรียน เพื่อติดตามนักเรียนกลุ่มที่เข้าถึงเรียนออนไลน์และการเรียนทางไกล รวมถึงหาสาเหตุและการแก้ปัญหาให้กับนักเรียนในกลุ่มที่ไม่สามารถเข้าถึงการเรียนออนไลน์ได้ ซึ่งในระหว่างการติดตามการเยี่ยมบ้านนี้ คณะครูได้จัดทำใบงานประจำสัปดาห์ให้กับนักเรียนในกลุ่มนี้ และหาทางช่วยเหลือนักเรียน เพื่อให้นักเรียนได้มีเวลาเรียนอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมอบ ถุงปันสุข หรือสิ่งของที่จำเป็น ให้กับครอบครัวนักเรียนที่ไปเยียมบ้าน เพื่อสร้างกำลังใจที่ดี ให้กับครอบครัวของนักเรียนในชุมชน เป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีให้กับโรงเรียนและผู้ปกครอง 

มาตรการการรับมือของโรงเรียนกบินทร์บุรีในช่วงเปิดภาคเรียน วันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ 2563 นั้น โรงเรียนกบินทร์บุรีมีแนวทางในการจัดการเรียนการสอน 3 รูปแบบดังนี้

รูปแบบที่ 1. คือ นักเรียนสามารถมาเรียนในโรงเรียนได้ 100% โดยจัดรูปแบบการเรียนการสอนแบบปกติ ภายใต้การควบคุมและป้องกันการระบาดของโรคติดต่ออย่างเข้มงวด มีการเว้นระยะห่างทางสังคม และทำความสะอาดเชื้อโรค อย่างถูกสุขอนามัย และพอเพียงต่อนักเรียนทั้งหมด

รูปแบบที่ 2. คือ การจัดกลุ่มนักเรียนออกเป็น 2 กลุ่ม โดยกลุ่มที่ 1 นักเรียนมาเรียน 3 วันต่อสัปดาห์ คือ วันจันทร์ วันอังคาร และวันพุธ และ กลุ่มที่ 2 นักเรียนจะมาเรียน 2 วันต่อสัปดาห์ คือ วันพฤหัสบดี และวันศุกร์ โดยสัปดาห์ต่อไป จะสลับนักเรียนกลุ่ม 1 และกลุ่มที่ 2 เพื่อให้นักเรียนได้มีเวลาเรียนเท่าๆกัน ในทุกๆ 2 สัปดาห์ เป็นการจัดการเรียนการสอนให้นักเรียนได้เรียนอย่างเท่าเทียมกัน

รูปแบบที่ 3. คือ ในสถานการณ์ที่ยังไม่เป็นปกติ หรือมีการระบาดของโรคอีกครั้ง ซึ่งไม่สามารถจัดการเรียนการสอนได้ที่โรงเรียน โรงเรียนกบินทร์บุรี จะใช้รูปแบบการเรียนการสอนออนไลน์ 100% ตามที่กล่าวมาข้างต้น 

ทั้งนี้ โรงเรียนจะสามารถจัดการเรียนการสอนให้นักเรียนเรียนครบตามหน่วยการเรียนได้ และสำเร็จผลตามบริบทและสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อให้นักเรียนได้มีโอกาสทางการเรียนได้อย่างทั่วถึง 

แนวปฏิบัติของโรงเรียนกบินทร์บุรีในการป้องกันการติดต่อเชื้อไวรัสโควิด-19 นั้น. โรงเรียนกบินทร์บุรียึดหลักแนวทาง 7 ต้อง ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 7 และปรับให้เข้ากับบริบทของโรงเรียนดังนี้

1. มีมาตรการการคัดกรองวัดไข้และอาการเสี่ยงก่อนเข้าโรงเรียนกบินทร์บุรี
2. สวมใส่หน้ากากอนามัย หน้ากากผ้า หรือหน้ากากแบบป้องกัน ตลอดเวลาเมื่ออยู่ในสถานศึกษา
3. มีการเว้นระยะห่างทางสังคม Social Distancing และ กำหนดสัญลักษณ์ตามจุดต่างๆ ของโรงเรียน เพื่อหลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้กัน
4. ลดความแออัด และไม่จัดกิจกรรมที่มีการสัมผัสร่วมกัน
5. มีจุดบริการล้างมือด้วยสบู่ เจลแอลกอฮอล์ หรือ แอลกอฮอล์ อย่างเพียงพอ
6. ทำความสะอาดบริเวณผิวสัมผัสที่มีการใช้งานร่วมกันอยู่บ่อย ๆ หรือทุกครั้งที่หมดคาบเรียน เช่นโต๊ะเรียน และ เก้าอี้
7. สร้างความเข้าใจให้กับครูและนักเรียน รวมถึงชุมชนเพื่อให้สังคมมีภูมิคุ้มกันที่ดี

ไม่ว่าสถานการณ์ต่าง ๆ จะเป็นเช่นไร คณะครู ผู้บริหาร และผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย จะรับมือกับทุกปัญหา เตรียมความพร้อม และแก้ไขปัญหา อย่างมุ่งมั่น และทำงานอย่างตั้งใจ เพื่อให้การศึกษาของชาติได้ดำเนินต่อไป ให้นักเรียนของเราได้เข้าถึงการศึกษา และพัฒนาศักยภาพของตนเองอย่างมีประสิทธิภาพ